ลักษณะและธรรมชาติของช้าง

ช้างลงดื่มน้ำ

ช้างเป็นสัตว์บกที่มีขนาดตัวใหญ่ที่สุด เลี้ยงลูกด้วยน้ำนม เป็นสัตว์แข็งแรง มีกำลังมาก มีขาใหญ่ 4ขา พื้นเท้าของมันอ่อนนุ่มเมื่อช้างเดินจึงไม่ใคร่ได้ยินเสียง ส่วนการนอนของช้างนั้นโดยธรรมชาติช้างจะนอนตะแคงลำตัวลงกับพื้น และมีการหาวนอนและนอนกรนเช่นเดียวกับมนุษย์ ตามปกติช้างจะนอนหลับในระยะเวลาสั้นๆเพียง 3-4ชั่วโมง เวลานอนอยู่ในระหว่างเวลา 23.00-3.00 ช้างจะไม่นอนตอนกลางวันนอกจากมีอาการป่วย

งวงช้าง คือ จมูกของช้าง ยาวถึงพื้น ใช้หายใจและจับดึงยกลากสิ่งของต่างๆได้ และใช้หยิบอาหารเข้าปาก ปลายงวงมีรู 2รู กลวงตลอดความยาวของวงช้าง งวงช้างไม่มีกระดูกแข็งอยู่ภายใน จึงอ่อนไหวและแกว่งไปมาได้ง่าย งวงนี้ยังใช้อมน้ำและพ่นน้ำเล่นได้เมื่อช้างจะดื่มน้ำจะใช้งวงดูดน้ำเข้าไปเก็บในงวงก่อนแล้วจึงพ่นน้ำจากงวงเข้าปากอีกทีนึง

งาช้าง เป็นสิ่งสวยงามและมีราคามากที่สุดในตัวของช้าง งาช้างก็คือฟันหน้าหรือเขี้ยวของช้าง งอกออกจากขากรรไกรบนข้างละอัน งาช้างทั้งคู่มีสีขาวนวล เริ่มโผล่ให้เห็นเมื่อช้างมีอายุประมาณ 2-5ปี งาช้างที่สวยงามจะต้องมีความโค้งเรียบสม่ำเสมอจนเกือบเป็นรูปครึ่งวงกลม ช้างใช้งาเป็นอาวุธสำหรับป้องกันตัว ต่อสู้กับสัตว์ร้ายหรือต่อสู้กับช้างตัวอื่นๆ

งาช้างมี 2ชนิดคือ งาปลี มีความยาวไม่มาก แต่มีลำใหญ่วัดโดยรอบประมาณ 15นิ้วฟุตขึ้นไป งาเครือ หรือ งาหวาย หมายถึงงาที่ยาวรี มีความกว้างโดยรอบไม่ถึง 14นิ้ว

นัยน์ตา ช้างมีตาที่เล็กมากเมื่อเทียบกับรูปร่างอันใหญ่โต แต่สามารถมองเห็นสิ่งต่างๆได้อย่างชัดเจน และเห็นได้ไกล

ใบหู มีลักษณะเป็นแผ่นใหญ่คล้ายพัด โบกไปมาอยู่เสมอ เมื่อช้างกางใบหูออกจะได้ยินเสียงจากที่ไกลๆได้ดีขึ้น ช้างที่มีอายุมากใบหูจะม้วนลงมาและขอบล่างมักเว้าแหว่ง การเว้าแหว่งของขอบล่างใบหูอาจใช้คาดคะเนอายุของช้างได้อย่างคร่าวๆ ถ้าใบหูเว้าแหว่งน้อยก็แสดงว่าอายุยังน้อย ถ้าเว้าแหว่งมากก้หมายถึงอายุมาก

หาง หางของช้างมีลักษณะกลมยาวเรียวลงไปถึงเข่า ที่ปลายมีขนเส้นโตสีดำ ยาวประมาณ 4-6นิ้ว เรียงเป็น 2แถว ตลอกความยาวของหางประมาณ 6-7นิ้ว